Tuesday, August 18, 2009

รวมข่าวการถวายฎีกาจากสื่อต่างชาติ 17 สิงหาคม 2009

ริ่มจากรอยเตอร์ในบทวิเคราะห์ เรื่อง SCENARIOS-Will Thailand's political crisis deepen?
ตามลิงค์นี้เลยค่ะ http://www.reuters.com/article/marketsNews/idUSBKK49017820090813


จาก Asia One "Thaksin petition will be thrown out: PM "
link - http://news.asiaone.com/News/Latest%2BNews/Asia/Story/A1Story20090816-161343.html

จาก Asia one "Royal pardon for Thaksin "
link - http://news.asiaone.com/News/Latest%2BNews/Asia/Story/A1Story20090815-161254.html


จาก The star " Living with ‘time bombs’ "
http://thestar.com.my/columnists/story.asp?file=/2009/8/15/columnists/thaitakes/4523475&sec=thaitakes

บทวิเคราะห์จากสื่อ ฟิลลิปปินส์ "Why they still long for Thaksin"
Link - http://opinion.inquirer.net/inquireropinion/talkofthetown/view/20090816-220534/Why-they-still-long-for-Thaksin

บทวิเคราะห์จากรอยเตอร์ " Thai PM faces uphill struggle to hold power "
Link - http://www.reuters.com/article/latestCrisis/idUSBKK227649

จาก Mathaba.net ข่าวมีคนร่วมลงชื่อถวายฏีกา มากกว่า 5 ล้านคน "Over 5 mln Thais sign oppose pardon petition for Thaksin"
ลิงค์ - http://mathaba.net/news/?x=621541

From Channel news Asia "Thailand bracing for trouble from rival political supporters"
http://www.channelnewsasia.com/stories/southeastasia/view/449280/1/.html

From BBC "Thaksin backers submit petition"
http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/8204589.stm

จาก Nirmal Ghosh, ของวันที่ 2 สิงหา 2009 "5m signatures claimed"
http://www.straitstimes.com/Breaking%2BNews/SE%2BAsia/Story/STIStory_411412.html


From Al-Jazeera " Red Shirts rally in Bangkok "
http://english.aljazeera.net/news/asia-pacific/2009/08/20098174323179370.html


From Asia One " Thai police believe no red-and-blue-shirt clash "
http://news.asiaone.com/News/Latest%2BNews/Asia/Story/A1Story20090817-161473.html


From Xinhua "More Thai policemen to be deployed to watch on red-shirts rally "
http://news.xinhuanet.com/english/2009-08/17/content_11896710.htm

From straits Times "30,000 seek Thaksin pardon"
http://www.straitstimes.com/Breaking%2BNews/SE%2BAsia/Story/STIStory_417863.html
ข่าวเสนอการโฟนอิน แต่เรื่องตัวเลขของผู้ชุมนุมนี่ เขาคงเอามาจากข่าวของไทย

From Xinhua " Thailand's red-shirted people gathering in Bangkok to submit pardon for Thaksin "
http://news.xinhuanet.com/english/2009-08/17/content_11896682.htm

From AFP " Thai protesters seek Thaksin royal pardon: police "
http://www.google.com/hostednews/afp/article/ALeqM5hO4a85USkArMM9URLy4DDFpJZf-g

From Reuters " Thai "red shirts" rally, seek pardon for Thaksin "
http://www.reuters.com/article/worldNews/idUSTRE57G0V520090817

จาก VOA news " Thaksin Supporters Gather to Present Pardon Petition to King "
http://www.voanews.com/english/2009-08-17-voa12.cfm


จาก ABC news " Thai protesters seek Thaksin royal pardon "
http://www.abc.net.au/news/stories/2009/08/17/2658642.htm


จาก Sky news " Mass Thai Rally For Thaksin Royal Pardon "
http://news.sky.com/skynews/Home/World-News/Thailand-Thaksin-Shinawatra-Mass-Rally-Demanding-A-Royal-Pardon-For-The-Former-Prime-Minister/Artic

จาก Bernama "Thaksin Supporters Present Petition Seeking Pardon "
http://www.bernama.com/bernama/v5/newsworld.php?id=433507

จาก Reuters " Will Thaksin petition deepen Thai political crisis "
http://www.reuters.com/article/newsMaps/idUSTRE57G1T420090817

From Aljazeera " Red Shirts deliver Thaksin petition "
http://english.aljazeera.net/news/asia-pacific/2009/08/2009817175743633356.html

จากสื่อท้องถิ่นของมาเลเซีย Utusan ก็มีลง "Baju Merah serah petisyen ampunkan Thaksin "
http://www.utusan.com.my/utusan/info.asp?y=2009&dt=0818&pub=Utusan_Malaysia&sec=Luar_Negara&pg=lu_03.ht

จากสื่อท้องถิ่นของมาเลเซียอีกเช่นกัน " 30,000 penyokong Thaksin mohon pengampunan diraja "
http://www.bharian.com.my/Current_News/BH/Tuesday/Dunia/20090818003808/Article/indexworld_html

Saturday, April 25, 2009

รู้จักไลบีเรีย

By MyRed

พลันที่มีข่าวว่า อดีตนายกทักษิณไปปรากฏตัวที่ไลบีเรีย และเข้าพบกับรองประธานาธิบดีไลบีเรีย หารือเกี่ยวกับแผนการที่จะเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในประเทศแห่งนี้ ได้เป็นข่าวที่ปรากฏตามหน้าสื่อต่าง ๆ ทั้งในต่างประเทศ และในประเทศ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของอดีตนายกคนนี้ ซึ่งยังคงเป็นที่สนใจ และ เป็นที่จับตามองจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายที่ชื่นชอบและฝ่ายตรงข้าม ไลบีเรียอยู่ตรงไหน ประเทศนี้มีความสำคัญอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้


ไลบีเรียตั้งอยู่ในแอฟริกาตะวันตก ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติค มีเมืองหลวงชื่อ Monrovia ทาง ทิศตะวันตกติด Sierra Leone ทางทิศเหนือ ติดกับประเทศ Guinea ทางทิศตะวันออกติดกับประเทศ Ivory Coast มีประชากร 3,900,000 คน ประกอบด้วยชน African 95% (มีKpelle, Bassa, Gio, Kru, Grebo, Mano, Krahn, Gola, Gbandi, Loma, Kissi, Vai, Bella, Mandingo, and Mende), Americo-Liberians 2.5% (สืบเชื้อสายมาจากอดีตทาสในอเมริกา ), Congo 2.5% (สืบเชื้อสายมาจากอดีตทาสในคาริบเบียน) นับถือศาสนาคริสต์ 40% ความเชื่อดั้งเดิม 40% และศาสนาอิสลาม 20% ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางราชการและภาษาของแต่ละเชื้อชาติอีกหลายภาษา ใช้สื่อสารติดต่อกัน


ไลบีเรียผ่านพ้นสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี คศ. 1990-2003 คร่าชีวิตประชาชนกว่า 250,000 คน หลังสงครามกลางเมืองจบลง กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้ส่งทหารเข้าไป 15,000 คน และมีการเลือกตั้ง ขณะนี้ ประธานาธิบดีเป็นผู้หญิง ชื่อ Ellen Johnson-Sirleaf อดีตรัฐมนตรีการคลัง และชนะการเลือกตั้งสองครั้ง ในปี 2003 และ 2006 เธอได้ชื่อว่า เป็น Iron lady หรือหญิงเหล็ก เป็นผู้นำหญิงคนแรกของแอฟริกาที่มาจากการเลือกตั้ง สามารถเอาชนะนาย George Weah อดีตนักฟุตบอลชื่อดังจากทีมเอซี มิลาน

ผู้เขียนได้ยินชื่อประเทศนี้ นับจากที่เกิดสงครามกลางเมือง ได้ยินชื่ออดีตประธานาธิบดี Charles Taylor ที่ขึ้นมามีอำนาจในปี 1997 และ ขบวนการ Revolutionary United Front (RUF) ซึ่งต่อมา ศาลพิเศษของเซียร์ราลีโอน ได้ฟ้องร้องต่อ ศาลยุติธรรมแห่งสหประชาชาติว่าเขาก่อสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และมีการออกหมายจับเทย์เลอร์ ในข้อหาก่อตั้งและสนับสนุนกบฏเซียร์ราลีโอน เขาต้องลงจากตำแหน่งเมื่อปี 2003 และได้ลี้ภัยไปไนจีเรีย 3 ปีต่อมาทางการไลบีเรียร้องขอให้ไนจีเรียส่งตัวในฐานะเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ทางรัฐบาลไนจีเรียยอมปล่อยเทย์เลอร์ไปขึ้นศาลในเซียร์ราลีโอน แต่ไม่ยอมส่งตัวเขาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมายังไลบีเรีย เทย์เลอร์หายไปจากบ้านพักในไนจีเรีย แต่ถูกจับกุมได้ขณะพยายามข้ามพรมแดนไปยังแคเมอรูน จากนั้นเขาถูกส่งตัวไปเข้าคุกของสหประชาชาติ


ปัจจุบันไลบีเรียกำลังเร่งฟื้นฟูและพัฒนาประเทศขนานใหญ่ เปิดรับนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในด้านต่าง ๆ เช่น การคมนาคม การสื่อสาร การเกษตร การอุตสาหกรรม พลังงาน แม้ว่าจะเป็นประเทศเล็ก มีประชากรไม่ถึง 4 ล้านคน แต่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญหลายอย่างที่ยังไม่ได้มีการสำรวจ โดยอย่างอย่างยิ่งก๊าซธรรมชาติ ที่เชื่อว่ามีเป็นจำนวนมหาศาล นอกจากนี้ภาคการเกษตร ไลบีเรียผลิตน้ำยางธรรมชาติป้อนสู่โรงงานไฟร์สโตน ในอันดับต้น ๆ

การที่อดีตนายกทักษิณเดินทางไปหาลู่ทางการลงทุนใหม่ ๆ ในสาธารณรัฐเล็ก ๆ แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นนักลงทุนต่างชาติคนหนึ่ง ซึ่งในเวลานี้ได้ให้ความสนใจ ที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศแถบแอฟริกามากขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนในเวลานี้ ได้เข้าไปลงทุนและสร้างสาธารณูปโภคในประเทศแถบแอฟริกาไว้ในหลายประเทศ ลงทุนด้านพลังงาน ขุดเจาะน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ลงทุนสร้างท่าเรือเป็นแหล่งขนถ่ายสินค้า เราเองก็ควรศึกษาเกี่ยวกับแอฟริกาให้มากกว่านี้ ทศวรรษหน้าความเจริญจะเกิดขึ้นในโลกตะวันออก ขณะเดียวกันแหล่งที่จะป้อนวัตถุดิบ เราคงจะมองข้ามแอฟริกาไม่ได้อีกแล้ว เพราะ มีทั้งน้ำมัน ทองคำ แร่ธาตุที่สำคัญ เช่น เหล็ก เงิน หากมองไกลกว่า การจ้องจับผิดทักษิณ ของฝ่ายที่ตรงข้ามทักษิณ ขณะที่อีกฝ่ายจ้องจับผิด เราควรหาโอกาสศึกษาประเทศเหล่านี้ให้ดี ลู่ทางการลงทุนในด้านอื่น ๆ คงมีอีกมาก หากว่ามีคนไทยนำร่องไปทำธุรกิจที่นั้น และทักษิณก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่นำร่องไปทำธรุกิจในไลบีเรีย......
ข่าวจากสื่อต่างประเทศ เกี่ยวกับ ทักษิณในไลบีเรีย
รอยเตอร์
นิตยสารฟอบส์
คอสโม มาเลเซีย (สื่อท้องถิ่น)

Wednesday, April 8, 2009

แถลงการณ์ เสื้อแดง ฉบับที่ 1

วันที่ 08 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 16:05:02 น. จากมติชนออนไลน์

เสื้อแดงออกแถลงการณ์ 3 ข้อ ให้"เปรม-สุรยุทธ์-ชาญชัย-มาร์ค"ลาออกจากตำแหน่งทันที โดยไม่มีเงื่อนไขเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 เม.ย. แกนนำคนเสื้อแดงนำโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นต้น ได้ขึ้นบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่ออ่านแถลงการณ์ของคนเสื้อแดง โดยระบุถ้อยความดังต่อไปนี้
เมื่อประชาชนได้รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลซึ่งเข้าสู่อำนาจโดยมิ ชอบ ได้ทำหน้าที่รักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ด้วยการดำเนินคดีกับกลุ่มอนาธิปไตยผู้ยึดทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และสนามบินสุวรรณภูมิ อย่างเข้มงวดและรวดเร็ว กับขอให้จัดทำรัฐธรรนูญขึ้นใหม่ให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง รัฐบาลนี้กลับเพิกเฉย การชุมนุมครั้งใหม่ ในวันที่ 26 มี.ค. 2552 ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลเพิ่มขึ้น จนเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยว่า ประธานองคมนตรีและองคมนตรีบางท่าน ได้ร่วมกันวางแแผนและยึดอำนาจการปกครอง เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 แล้วสถาปนาระบอบการปกครองอำมาตยาธิปไตยขึ้นมา ทำให้ประเทศชาติเสียหายเหลือคณานับ
วันนี้ ประชาชนซึ่งได้อดทนมานาน จนถึงที่สุดแล้ว ไม่ยินยอมอยู่ใต้การปกคอรงแบบนี้ต่อไป จึงได้รวมตัวกันชุมนุมอย่างสันติ เป็นมวลมหาประชาชน พร้อมใจตั้งข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ต้องพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่งองคมนตรีเพื่อความบริสุทธิ์ ผ่องแผ้วของสถาบันองคมนตรี
2. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทั้ง 2 ข้อนี้ต้องเกิดขึ้นในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
3 การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ การปรับปรุงใดๆ ให้ดีขึ้นตามหลักสากล ต้องมีการปรึกษาหารือกันระหว่างนักประชาธิปไตยผู้มีประวัติและพฤติกรรมเชิด ชูระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ประจักษ
มวลมหาประชาชนคนเสื้อแดง
8 เม.ย. 2552

Tuesday, April 7, 2009

link ข่าวและบทวิเคราะห์ จากสำนักข่าวต่างประเทศ เกี่ยวกับการเมืองไทย 8 เมษา 2009

วันชุมนุมใหญ่ สนง.ข่าว ตปท. มีการติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด แม้ว่า ฟรีทีวี จะไม่ค่อยรายงานข่าวเท่าไร เริ่มด้วยข่าวแรก จาก ABC News รายงานว่า คนประมาณ 300000 คน ออกมาชุมนุมใหญ่ วันนี้http://www.abc.net.au/news/stories/2009/04/08/2538008.htm?section=justin


จาก AFP http://www.google.com/hostednews/afp/article/ALeqM5jye6MQeZ5vui8taCd43AURK3jljw


จาก Bernama
http://www.bernama.com/bernama/v5/newsgeneral.php?id=402609


จาก CNN คาดว่า คน 300000 คน จะร่วมชุมนุมใหญ่วันนี้ วัน D-day http://edition.cnn.com/2009/WORLD/asiapcf/04/07/thailand.protests/index.html


ข่าวจาก aljazeera รายงานผู้ชุมนุม 300000 คน ชุมนุมใหญ่วันนี้
http://english.aljazeera.net/news/asia-pacific/2009/04/2009483656127675.html


link รวมจาก thaired UK
http://www.thaireduk.com/board/index.php?topic=15

Monday, April 6, 2009

เสียงต้าวด้วยตีนเดิน ! : วิสา คัญทัพ


ใกล้วันดีเดย์ใหญ่ มีบทกวีจาก วิสา คัญทัพ ฝากให้พี่น้องชาวเสื้อแดง ผู้รักประชาธิปไตย ทุกท่าน


เสียงต้าวด้วยตีนเดิน 1 วิสา คัญทัพ


เสียงต้าวด้วยตีนเดิน

ราชดำเนินสะเทือนทางมวลคนอันครืนคราง

ขย่มเข้า - ขมึงทึงมวลคนอันแค้นคลั่ง

จึงพลังขึ้นตังตึงกูพร้อมจะสู้มึง

ก็มากล้นไม่ทนรอกูมา จากทั่วมุม

ที่มึงคุมขึ้นขี่คอเหยียบบ่าจนหลังงอ

จนงุดงุ้มอยู่ปุ่มโปนพลังฤทธิ์ “จิตร” กวี

ทั้ง “นายผี” ก็ลุกโพลนประกายก็ฉายโชน

สู่ “กวีศรีประชา”

ลุกขึ้นมาขีดเขียน

เพื่อจุดเทียนแห่งศรัทธาสรรเสริญซึ่งศักดา

แห่งมหาประชาชนเสียงต้าวด้วยตีนเดิน

ราชดำเนินมิทานทนทั่วถ้วนด้วยมวลคน

อทึกโหมขึ้นโครมคราม



เสียงต้าวด้วยตีนเดิน 2 วิสา คัญทัพ


โครมครืน คระหึ่มครวญ

ก็ล้วนมวลที่เคยมารถะถั่งทั้งสังหาร

ด้วยโหดโหมโรมราวีราวีเลือดไหลหลั่ง

จนท่วมคลังขึ้นบัญชีเลือดนั้นยังค้างหนี้

ถึงบัดนี้นั้นเนิ่นนานเพื่อนล้มเป็นรอยเห็น

หลายประเด็นเผด็จการเพื่อนยังเป็นวิญญาณ

พยานอยู่มิรู้ลืมใครลืมแล้วหรือเล่า

หยุดขลาดเขลาให้หยิบยืมบิดเบือนไปปลาบปลื้ม

ประวัติศาสตร์จนพลาดพลั้งเสียงต้าวจากตีนเดิน

ราชดำเนินอดีตดังปืนเปรี้ยงที่เคยปัง

สังหารเพื่อนมิเลือนหายตีนต้าวจากต้อยต่ำ

จักเหยียบย่ำขึ้นท้าทายตราบที่อธรรมหมาย

มิมอดจบ รบต่อไป.

link ข่าวและบทวิเคราะห์ จากสำนักข่าวต่างประเทศ เกี่ยวกับการเมืองไทย 7 เมษา 2009

ข่าวจากเอเชียวัน เสนอการลงขัน ให้รางวัล 1 ล้านบาทเพื่อล่าตัว อดีตนายกทักษิณ โดยผู้ที่ใช้ชื่อกลุ่ม สยามสามัคคี
http://news.asiaone.com/News/Latest%2BNews/Asia/Story/A1Story20090407-133825.html


จากเอเชียวันอีกข่าว กษิต ปากยาวอีกแล้ว ที่สงสัยว่า ทักษิณอยู่ในกัมพูชา
http://news.asiaone.com/News/Latest%2BNews/Asia/Story/A1Story20090407-133829.html


ข่าว มาร์ค โดนชุมนุมขับไล่ ที่พัทยา http://www.google.com/hostednews/afp/article/ALeqM5j9jQ4CTZbGRhE1UM-gVbpjs3sA9w

ข่าวจาก รอยเตอร์ สาธิต กล่าวว่า ผู้ชุมนุมต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ควบคุมไม่ได้
http://in.reuters.com/article/worldNews/idINIndia-38922820090407

อีกข่าวจากซินหัว
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/07/content_11144750.htm


อัพเดท ข่าววันนี้กันต่อ เริ่มด้วย ข่าวการชุมนุมประท้วง ทุบรถ มาร์ค ที่พัทยา จากหลาย ๆ สำนัก เสนอการทุบ หลายข่าว

รอยเตอร์
http://www.reuters.com/article/worldNews/idUSTRE5361WL20090407

AFP
http://www.google.com/hostednews/afp/article/ALeqM5gLV4ICnfQs91lCvqc1adzVfTbNeA

http://www.google.com/hostednews/afp/article/ALeqM5jsLEu669SsnRw9DGL8ykR6gfPxZw

AP
http://www.google.com/hostednews/ap/article/ALeqM5g3j-vAVG1fg3kEfnogTiH8_4EXvwD97DIGIG0

http://www.google.com/hostednews/ap/article/ALeqM5g3j-vAVG1fg3kEfnogTiH8_4EXvwD97DL7F80

Hindu.com
http://www.hindu.com/thehindu/holnus/001200904071503.htm


ซินหัว
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/07/content_11144506.htm

http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/07/content_11144791.htm

BBC
http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/7987722.stm

ABC News
http://www.abc.net.au/news/stories/2009/04/07/2537733.htm?section=justin

WA today Australia
http://www.watoday.com.au/world/pms-car-attacked-20090407-9zlv.html

เทเลกราฟ
http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/asia/thailand/5120040/Thai-PMs-car-attacked-as-tension-grows.html


อีกบทความจาก ไทม์ ทักษินเรียกร้องให้ ชาวกรุงเทพ ออกมาร่วมชุมนุม
http://www.time.com/time/world/article/0,8599,1889812,00.html


อันนี้เป็นบทความเชิงสารคดี แต่ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นภาษามาเลย์ แนะนำ ที่เที่ยวของไทย ในบทความขึ้นต้นด้วยว่า แม้การเมืองไทย จะยังคงมีความวุ่นวาย แต่ไทย ก็ยังปลอดภัย ที่จะมาเที่ยว (เพราะ ไม่มีการปิดสนามบิน - ผู้โพสต์) และ บอกอีกว่า ไทยเป็นดินแดนแห่งความมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม
http://www.bharian.com.my/Current_News/BH/Sunday/Kembara/20090405041329/Article/indexkem_html

แถลงการณ์ THAIRED UK ฉบับที่ 1



แถลงการณ์ THAIRED UK ฉบับที่ 1


ท่ามกลางการต่อสู้ที่เข้มข้นแหลมคมของพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยสีแดง ได้มีการตอบโต้จากฝ่ายเผด็จการไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ทหาร กลุ่มผู้มีอำนาจนอกระบบ ได้ทำการปิดกั้นการสื่อสารมีการใส่ร้ายต่างๆนานาต่อกลุ่มพี่น้องเสื้อแดง มีการกีดกันไม่ให้พี่น้องเสื้อแดงเดินทาง มาเข้าร่วมการชุมนุมในรูปแบบต่างๆ รวมถึงมีข่าวลือว่าอาจจะมีการใช้ความรุนแรงจากฝ่ายทหารและรัฐบาลโจร เพื่อยุติบทบาทการชุมนุมและรวมตัวกันของชาวเสื้อแดง


เราชาวคน RED UK ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนพี่น้องเสื้อแดงนอกประเทศไทย มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ได้มีการประชุมครั้งที่สอง (5 เมษายน 2009)เมือง Birmingham และมีมติอย่างเป็นทางการว่า กลุ่มคน RED UK ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและผู้มีอำนาจในสังคมปัจจุบันว่า ห้ามใช้ความรุนแรงกับพี่น้องคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอย่างสันติ ไม่ว่าในกรณีใด ๆทั้งสิ้น


1. เราชาวคน RED UK เรียกร้องให้คืนประชาธิปไตยให้ประชาชนทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ต้องยกเลิกสถาบันองค์มนตรี ทหารต้องเลิกยุ่งและแทรกแซงการเมืองในทุกกรณี


2. ห้ามมีการปราบปรามต่อการชุมนุมอันสันติของพี่น้องเสื้อแดงในทุกกรณี หากมีการปราบปรามชาวเสื้อแดง คนRED UK จะเคลื่อนไหวในระดับสากล เพื่อประณามการกระทำอันป่าเถื่อนของทหารและพรรคประชาธิปัตย์ต่อขบวนการประชาธิปไตยทันที รวมถึงเปิดโปงความชั่วร้ายของฝ่ายเผด็จการในทุกๆด้าน


3. ต้องมีการยุบสภาพเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน โดยใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2540


เอาประชาธิปไตยคืนมา เอาอภิสิทธิ์ชนคืนไป
กลุ่ม THAIRED UK

5 เมษายน 2009



THAI-RED-UK Declaration 1


Political events in Thailand are reaching a high point with the planned mass protest for democracy by thousands of Red Shirts on 8th April. The murky forces of the Thai Dictatorship are making every attempt to block people from joining the protests, by setting up illegal road blocks and by silencing alternative media and communications outlets. Lies are being told about the Red Shirts and there are very serious threats to use violence to disperse the demonstrators.


We, the Thai RED UK network, fully support the pro-democracy protests planned for the 8th April in Bangkok. At a meeting on 5th April in Birmingham, we resolved to call on the government and those in power to refrain from any violence against the protestors.


1. We demand that democracy be returned to Thai society immediately and without conditions. The Privy Council should be abolished and the military should stop intervening in politics.


2. We strongly oppose any violent acts by the state against the Red Shirt protests. If all those in power do not respect democratic rights and act with violence, we shall mount a vigorous international campaign to denounce them.


3. Parliament should be dissolved immediately and fresh elections held under the 1997 Constitution.


“THAIRED UK”


April 5th, 2009


link ข่าวและบทวิเคราะห์ จากสำนักข่าวต่างประเทศ เกี่ยวกับการเมืองไทย 6 เมษา 2009

บทวิเคราะห์ ล่าสุดเกี่ยวกับการเมืองไทย จาก Thailand land of smiles becomes land of lies ต้องอ่านค่ะ
http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/asia/thailand/5110697/Thailand-analysis-land-of-smiles-becomes-land-of-lies.html


ข่าวจากซินหัว มาร์ค มั่นใจว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแน่นอน
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/06/content_11138665.htm


ข่าวจากซินหัวเช่นกัน รายงานว่า กษิต เรียกทูต ต่างประเทศ ชี้แจง กรณีทักษิณ (ทำยังกับว่า พวกทูต เขาไม่รู้เรื่องไรเลยเนอะ)
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/06/content_11138895.htm


จากซินหัวอีกข่าว เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรับมือ การชุมนุมใหญ่วันที่ 8 จากฝ่ายความมั่นคง
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/06/content_11138918.htm


ข่าวจากสเตรทไทม์  มาร์คยังคงจะไ ม่ประกาศภาวะฉุกเฉินในขณะนี้


ข่าวจากซินหัว อดีตนายทหาร สว และนักธุรกิจ ประมาณ 20 คน รวมตัวกันและประกาศ ให้รางวัลเป็นเงิน 1 ล้านบาท กับผู้ที่สามารถจับกุมตัวอดีตนายกทักษิณได้


ข่าวจากรอยเตอร์ มาร์คออกทีวี รวมการเฉพาะกิจคืนนี้ แถลงว่า จะทำตาม กรอบ กม. จัดการกับผู้ชุมนุม 

Sunday, April 5, 2009

link ข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ เกี่ยวกับการเมืองไทย 5 เมษา 2009

ข่าวจากซินหัว พันธมิตร ติดตามการเคลื่อนไหว ชุมนุม ของ เสื้อแดง อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการชุมนุมใหญ่ วันที่ 8 นี้
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/05/content_11134889.htm


ข่าวจากซินหัวเช่นกัน ข่าวอดีตนายกทักษิณ เรียกร้องให้ออกมาชุมนุม ทวงคืนประชาธิปไตยในวันที่ 8 นี้ กันมาก ๆ
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/05/content_11133820.htm


จากซินหัว รัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมวันที่ 8 นี้
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/04/content_11131529.htm


อีกข่าวจากซินหัว คนเสื้อแดงเชื่อว่า จะมีผู้ร่วมชุมนุม วันที่ 8 นี้ ไม่ต่ำกว่าแสนคน จากการให้สัมภาษณ์ของ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ
http://news.xinhuanet.com/english/2009-04/04/content_11131418.htm

ข่าวหลังการโฟนอิน ของอดีตนายกทักษิณ ที่ เชิญชวนให้คนมาร่วมชุมนุมใหญ่ วันที่ 8 เพื่อขับไล่ระบอบอำมารตยาธิปไตย ออกจากสังคมไทย จากเสตรมไทม์ สิงค์โปร์
http://www.straitstimes.com/Breaking%2BNews/SE%2BAsia/Story/STIStory_359794.html

จาก วอลสตรีท เจอนัล ข่าวทักษิณ ปฏิเสธการเจรจา จริง ๆ เรื่องนี้หลายวันแล้ว แต่เพิ่งมาเสนอ
http://online.wsj.com/article/SB123892601162490253.html?mod=googlenews_wsj

ข่าวของมาร์ค จะไม่ยุบสภาตามที่มีการเรียกร้อง
http://www.channelnewsasia.com/stories/afp_asiapacific/view/420254/1/.html


จากเอเชียวัน ข่าวลูก ๆ ทักษิณ เปิดตัวหนังสือ คนอื่นเรียกนายก แต่เราเรียกพ่อ และลงข่าวอีกว่า ลูกสาวร้องไห้ อยากให้พ่อได้กลับมา
http://news.asiaone.com/News/Latest%2BNews/Asia/Story/A1Story20090405-133404.html

อีกข่าว จากเทเลกราฟ สำนักข่าวอื่น ลงไปแล้วข่าวนี้ แต่เทเลกราฟ เพิ่งเอาลง เกี่ยวกับ ทักษิณเผยผู้อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจ
http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/europe/france/5109899/Thaksin-Shinawatra-blames-royals-chief-advisor-for-orchestrating-a-coup.html

Friday, April 3, 2009

link ข่าวต่างประเทศ เกี่ยวกับ สถานการณ์การเมืองไทย 4 เมษายน 2009

จากเดอะสตาร์ ของมาเลเซีย ลงการให้สัมภาษณ์ ของ หม่อมปลื้ม เทวกุล ต่อประเด็นปัญหาการเมืองปัจจุบัน รายละเอียดตามลิงค์

http://thestar.com.my/news/story.asp?file=/2009/4/4/focus/3626503&sec=focus


ข่าวนี้จาก บีบีซี เกี่ยวกับ สุวิชัย ท่าค้อ โดนตัดสินจำคุก 10 ปี ในข้อหาหมิ่น เบื้องสูง

http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/7981769.stm


ข่าวหลังจากการโฟนลิงค์ เมื่อคืน ที่อดีตนายกทักษิณ ปฏิเสธการเจรจา เพราะตอนนี้ การต่อสู้เลยจุดนั้นมาแล้ว การเจรจานั้นอาจจะเป็นประโยชน์ แต่ตัวเขา แต่ตอนนี้เป็นการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตย และอนาคตของประเทศชาติ ตามลิงค์

http://www.reuters.com/article/rbssFinancialServicesAndRealEstateNews/idUSBKK19478320090403

http://www.google.com/hostednews/afp/article/ALeqM5gXfpWCRl86gcqNk8jPk9h2uRj65w


ส่วนอันนี้ เป็นลิงค์ข่าวการปะทะกันของทหารไทยและกัมพูชา มีลงกันหลายสำนักตลอดทั้งวัน เมื่อวานนี้ เป็นลิงค์ หน้ารวมจาก กูเกิ้ล ค่ะ

http://news.google.com/news?um=1&ned=us&cf=all&ncl=1325189529

แถวอีกข่าวจาก บลูมเบิร์ก

http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601080&sid=aRbKvgjLyW04&refer=asia

Wednesday, April 1, 2009

แถลงการณ์ "แนวร่วมรวมพลคนเสื้อแดงโลก"

เรียน พ่อแม่พี่น้องเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตยในประเทศไทยทุกท่าน

พวกเรา แนวร่วมรวมพลคนเสื้อแดงทั่วโลก จากประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ และเยอรมนีจำนวนหลายพันคนทั่วโลก กำลังติดตามการต่อสู้เรียกร้องของพ่อแม่พี่น้องชาวเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตยในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ทั้งท่านที่กำลังชุมนุมกัน อยู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล และที่ศาลากลางจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย

"แนวร่วมรวมพลคนเสื้อแดง" ต้องการแสดงความเห็นที่พวกเรา มีต่อการต่อสู้ของพ่อแม่พี่น้องคนเสื้อแดงที่ประเทศไทย และประสงค์แสดงเจตนารมณ์ในการต่อสู้ของพวกเรา ต่อการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงในประเทศไทย ที่เสียงส่วนมากของประชาชน ต้องได้รับการยอมรับจากทุกส่วนสถาบันในสังคมดังต่อไปนี้
ก) ขอชื่นชมจิตใจกล้าต่อสู้ กล้าเสียสละของพ่อแม่พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนจัด และความไม่สะดวกสบายด้วยประการทั้งปวง พ่อแม่พี่น้อง ยังยืนหยัดต่อสู้ติดต่อกันหลายวันหลายคืน เพื่อสิทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวท่านตามระบอบประชาธิปไตย
ข) สนับสนุนแนวทางการต่อสู้ของสถาบันเสื้อแดง ภายใต้การนำของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ ที่กำลังเปิดโปงหน้ากากของเผด็จการตัวจริง อันได้แก่ ระบบอำมาตยาธิปไตย ที่คอยหลอกลวงประชาชนว่า ประเทศไทยมีประชาธิปไตยแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ก็คอยบงการทำลายประชาธิปไตยที่กำลังก้าวไปข้างหน้าให้สะดุดหยุดยั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดมา
ค) ขอเรียกร้องให้ประธานองคมนตรี คณะองคมนตรี และผู้ที่ดำรงตำแหน่งในองค์กร อิสระ เช่น ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง ปปช. ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารครั้งที่ผ่านมา สำนึกถึงความผิดที่ก่อขึ้น และยอมลาออกจากตำแหน่งทั้งหมดที่ดำรงอยู่ เพราะอำนาจหน้าที่ของท่านนั้น ไร้ซึ่งความชอบธรรมในสายตาของประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยชาวไทยแล้ว

ง) ขอเรียกร้องให้มีการยุบสภา และนำรัฐธรรมนูญฉบับพุทธศักราช 2540 หรือ ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ2550 (คปพร.) เพื่อมาพิจารณาประกาศใช้ และ จัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน เพื่อคืนอำนาจในการตัดสินใจให้ประชาชนอีกครั้งหนึ่ง

จ) ขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใช้หิริโอตัปปะ ระงับการใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทย ที่กำลังชุมนุมอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะด้วยข้ออ้างหรือเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น

ฉ) หากพ่อแม่พี่น้องประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยชาวเสื้อแดง ถูกทำร้ายจากกองกำลังทหาร หรือกำลังตำรวจแล้ว พวกเราแนวร่วมรวมพลคนเสื้อแดงทั่วโลก จะร่วมกัน ยื่นหนังสือร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในองค์การสหประชาชาติ และที่สหภาพยุโรป และรัฐสภายุโรปในทันที เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้ช่องทางระหว่างประเทศ ระงับปฏิบัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าวอย่างทันท่วงที
ท้ายที่สุดนี้ ขออวยพรให้การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ของประชาชนชาวไทย ผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ประสบความสำเร็จบริบูรณ์

ขอแสดงความนับถือ

คุณอาคม ซิดนีย์ "ไทยเรดออสเตรเลีย"
คุณวัฒนา เอ็บเบ็จช์ "ไทยเรดยูเค"
คุณny_woodside "ไทยเรดอเมริกา"
คุณเบญจมา อนันตพงศ์ "ประชาธิปไตยไทยเยอรมนี" หรือ"ไทยเรดเยอรมนี"

Friday, March 27, 2009

รวมลิงค์ข่าวจากทั่วโลก ที่นำเสนอ การชุมนุมของคนเสื้อแดง 26 มีนาคม 2552


แม้ว่า ข่าวทางสื่อกระแสหลักในไทย ส่วนใหญ่ ไม่ได้นำเสนอ ข่าวการชุมนุม ภาพการชุมนุม มากนัก แต่ในสำนักข่าวต่างประเทศ แทบจะทั่วโลก มีการนำเสนอและลงภาพ คลิป เช่น BBC Washington Post, CNN, Al-jazeera, ในเวบข่าวของประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเมีซีย สิงค์โลปร์ เช่น the star Utusan Berita Harian ของมาเลเซีย เป็นต้น ทางเวบ Thai Red Malaysia ได้รวบรวมลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้องบางส่วน (ยังมีอีกหลายเวบ) เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าไปอ่าน....

From BBC:

http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/7965319.stm

From Washinton Post :

http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/article/2009/03/27/AR2009032700134.html

From Sydney morning herald:

http://news.smh.com.au/breaking-news-world/exiled-thaksin-calls-thai-protesters-20090327-9cqv.html

From Irish time:

http://www.irishtimes.com/newspaper/breaking/2009/0327/breaking11.htm

From The star Malaysia:

http://thestar.com.my/news/story.asp?file=/2009/3/27/worldupdates/2009-03-27T132504Z_01_NOOTR_RTRMDNC_0_-387391-1&sec=Worldupdates

From Straits time Singapore:

http://www.straitstimes.com/Breaking%2BNews/SE%2BAsia/Story/STIStory_355316.html

From Bernama:

http://www.bernama.com.my/bernama/v5/newsworld.php?id=399620

From Al Jazeera:

http://english.aljazeera.net/news/asia-pacific/2009/03/20093267385496490.html

From CNN:

http://edition.cnn.com/2009/WORLD/asiapcf/03/26/thailand.protests/index.html

From Berita Harian (ภาษา Malay):

http://www.bharian.com.my/Current_News/BH/Friday/Dunia/20090326234505/Article/indexworld_html

Thursday, March 26, 2009

บทความ คุณอาคม ซิดนีย์ ตอนที่ 6

ตอนที่ ๖

๑๙ กรกฏาคม ๒๕๕๐

แก๊งองคมนตรี

โดย อาคม ซิดนีย์



หลักฐานเกี่ยวกับตำแหน่งองคมนตรี ผมได้พยายามสืบค้นตามแหล่งข้อมูลต่างๆ ไม่ปรากฏ เป็นที่ชัดเจนว่าได้เกิดขึ้นเมื่อไรในประเทศสยาม จะมีก็แต่หลักฐานอ้างอิงชิ้นเล็กๆ พอที่จะอนุมาน ได้ว่าในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นมีที่ปรึกษาในพระองค์แต่ในเวลานั้นจะใช้คำว่า ปรีวีเคาน์ซิล” (Privy council) จนกระทั่งมาพบรายงานการประชุมเสนาบดีเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๔๓๕ (รศ ๑๑๑) จึงปรากฏมีคำว่า องคมนตรี เกิดขึ้น

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีประเพณีการแต่งตั้งองคมนตรีทุกปี ใน วันที่ ๔ เมษายน เนื่องในพระราชพิธีศรีสัจปานกาล โดยไม่มีการกำหนดจำนวนองคมนตรี แล้ว องคมนตรีต้องอยู่บนตำแหน่งจนสิ้นแผ่นดิน จึงปรากฏว่าตลอดรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏ เกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น มีจำนวนองคมนตรีมากถึง ๒๓๓ คน และการมีองคมนตรีมากมายนับร้อยคนนี้ ส่งผลให้ไม่สดวกต่อการเรียกประชุม

ครั้นพอถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งสภากรรมการองคมนตรีขึ้นตามพระราชบัญญัติองคมนตรี พ.ศ.๒๔๗๐ และทรงเลือกผู้ทรง คุณวุฒิในด้านต่างๆ เข้ามาเป็นกรรมการองคมนตรี จำนวน ๔๐ คน ทำหน้าที่ปรึกษาข้าราชการ สภากรรมการองคมนตรีได้ปฏิบัติหน้าที่ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ส่งผลให้สภาฯ ต้องถูกยุบ คณะองคมนตรีจึงต้องพ้นจากตำแหน่งไปโดยบริยาย

ครั้นปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ในรัชการปัจจุบันได้มีประกาศแต่งตั้ง อภิรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ซึ่งในรายละเอียดผมจะไม่ขอกล่าวถึง แต่จะขอข้ามมาพูดถึงคณะองคมนตรี ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.๒๕๔๐ ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ทรงเลือกและ ทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรีคนหนึ่ง และองคมนตรีอื่นๆ ไม่เกิน ๑๘ คน ประกอบเป็นคณะองคมนตรี (มาตรา ๑๒ วรรคหนึ่ง) การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรี หรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย (มาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง)

องคมนตรีต้องไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ดำรงตำแหน่งในองค์กร ต่างๆตามรัฐธรรมนูญ เช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ เป็นต้น ต้องไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หรือสมาชิกหรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมืองและต้องไม่แสดงการฝักไฝ่ ในพรรคการเมืองใดๆ (มาตรา ๑๔) ก่อนเข้ารับหน้าที่องคมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระ มหากษัตริย์ (มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง)

องคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากอดีตถึงปัจจุบันรวม ๔๕ ท่าน โดยองค์มนตรีท่าน แรกทรงมีพระนามว่า พล.อ.พระวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าอลงกฏ กรมหมื่นอดิศรอุดมศักดิ์ (หม่อมเจ้าอลงกฏ สุขสวัสดิ์ ๑๘ มิถุนายน ๒๔๙๒-๑๙ ธันวาคม ๒๔๙๕ สิ้นพระชนม์ในตำแหน่ง ส่วนองคมนตรีที่ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งอันดับที่ ๔๕ คือ พล.ร.อ.ชุมพล ปัจจุลานนท์ ๑๕ มีนาคม ๒๕๔๘-ปัจจุบัน สำหรับคณะองคมนตรีที่มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธาน มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๘ ท่าน (ไม่รวมประธานองคมนตรี) แต่ได้ถึงแก่อสัญกรรมไป ๓ ท่าน ในที่นี้ ผมจะนำเสนอรายนามทั้ง ๑๘ ท่าน โดยไม่ตัดทอน ซึ่งมีดังต่อไปนี้

1. นายเชาวน์ ณ ศีลวันต์ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๑๘-ปัจจุบัน

2. นายธานินทร์ กรัยวิเชียร ๑๕ ธันวาคม ๒๕๒๐-ปัจจุบัน (เป็นครั้งที่สอง ภายหลังจากที่เคยลาออกไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๑๙)

3. พล.ร.ต.หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช ๓ มีนาคม ๒๕๒๗-ปัจจุบัน

4. พล.อ.ต.กำธน สินธวานนท์ ๒๘ พฤษจิกายน ๒๕๓๐-ปัจจุบัน

5. พล.อ.อ. สิทธิ เศวตศิลา ๒๔ ธันวาคม ๒๕๓๔-ปัจจุบัน

6. นายจุลนภ สนิทวงค์ ณ.อยุธยา ๒๔ ธันวาคม ๒๕๓๔-ปัจจุบัน

7. พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ๑๓ กรกฏาคม ๒๕๓๖-ปัจจุบัน

8. นายอำพล เสนาณรงค์ ๙ กันยายน ๒๕๓๖-ปัจจุบัน

9. นายจำรัส เขมะจารุ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๗-ปัจจุบัน

10. หม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์ ๓ ตุลาคม ๒๕๓๗-๗ เมษายน ๒๕๔๙ ถึงแก่อสัญกรรมในตำแหน่ง

11. หม่อมราชวงค์เทพกมล กาวกุล ๗ สิงหาคม ๒๕๔๐-ปัจจุบัน

12. นายศักดา โมกขมรรคกุล ๖ มกราคม ๒๕๔๒-๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ถึงแก่อสัญกรรมในตำแหน่ง

13. นายเกษม วัฒนชัย ๑๘ กรกฏาคม ๒๕๔๔-ปัจจุบัน

14. นายพลากร สุวรรณรัฐ ๑๘ กรกฏาคม ๒๕๔๕-ปัจจุบัน

15. นายสวัสดิ์ วัฒนายากร ๑๘ กรกฏาคม ๒๕๔๕-ปัจจุบัน

16. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๖-๑ ตุลาคม ๒๕๔๙ กราบบังคมทูลลาออกไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

17. นายสันติ ทักราล ๑๕ มีนาคม ๒๕๔๘-ปัจจุบัน

18. พล.ร.อ.ชุมพล ปัจจุลานนท์ ๑๕ มีนาคม ๒๕๔๘-ปัจจุบัน

หมายเหตุ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๓๑ ถึง ๔ กันยายน ๒๕๔๑ จึงขึ้นดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีจนถึงปัจจุบัน

รายนามองคมนตรีที่ผมกล่าวถึงข้างต้นนี้ เพียงเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นว่าตลอดระยะเวลา ๕๘ ปี ที่ผ่านมาเรามีองคมนตรีรวมทั้งสิ้น ๔๕ ท่าน ทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตจนเป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชนและคนทุกวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านศาสตราจารย์อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ได้รับการยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคลที่เราท่านกราบไหว้ได้ด้วยความสนิทใจ

คณะองคมนตรีทุกคณะจากอดีตจนปัจจุบัน ไม่เคยมีปรากฏว่าจะมีใครกล้าวิพากษ์วิจารย์ จวบจนกระทั่งเปรมดำรงตำแหน่งองคมนตรี ภายหลังจากการปฏิเสธเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามคำเชิญชวนของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ จึงเป็นที่จับตามองของคนทั่วไป โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในแวดวงทหาร นั่นสืบเนื่องจากเปรมเป็นองคมนตรีเพียงคนเดียวที่เข้าไป เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายนายทหารในแต่ละปีด้วยการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ในทหารในส่วนหัวของแต่ละเหล่าทัพ แบบเล่นไม่เลิก ทั้งๆ ที่หมดอำนาจหน้าที่แล้ว

ถ้าหากว่าเปรมจะโทษลิขิตฟ้าดินว่า ฟ้าประทานชีวิตให้เปรมได้มาเกิด แล้วใยต้องให้อาคม ซิดนีย์มาเกิดด้วยก็คงไม่เกินความจริงนัก เพราะทุกย่างก้าวของเปรมนั้นไม่มีก้าวย่างไหนที่ จะสามารถหลุดรอดสายตาของอาคมได้ เพราะทันทีที่รัฐบาลชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโยก พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ จากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ข้ามห้วยมาลงบนตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เมื่อปี ๒๕๔๑ นั้น ผมก็ฟันธงด้วยการเขียนบทความเรื่อง บิ๊กแอ๊ดไม่ได้หยุดอยู่แค่ ผบทบ.ในปีเดียวกันนั้นเอง

นอกจากนั้นแล้ว ผมยังได้ฟันธงว่าการยึดอำนาจนั้นมันส่งกลิ่นตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ แล้ว (อ่านเสียงจากออสเตรเลีย ตอนที่ ๔ เรื่อง จิ๋วตายน้ำตื้น”) และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนใน ความเป็น แก๊งองคมนตรีผมขอให้ท่านผู้อ่านกลับไปดูรายชื่อองคมนตรีที่ผมเสนอข้างต้น โดยให้เริ่มตั้งแต่นายศักดา โมกขมรรคกุล เป็นต้นมา เพราะเป็นองคมนตรีที่ได้รับการเสนอชื่อโดยเปรมเป็นคนแรก

นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป ท่านผู้อ่านต้องอ่านด้วยความตั้งใจชนิดคำต่อคำนะครับ เพราะ ผมจะถอดระหัสในการเลือกสรรบุคคลเพื่อเสนอชื่อเป็นองคมนตรี ตามความต้องการของเปรมเพื่อมารองรับแผนชั่วในการยึดอำนาจ และทำลายล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย โดยจะแยกเป็นสายอำนาจ อันประกอบด้วย

1. ตุลาการ

2. สถาบันการศึกษาชั้นสูง

3. ฝ่ายบริหาร

4. กองทัพ

๑.ตุลาการ ภายหลังจากที่สามารถโยก พล.อ.สุรยุทธ กลับเข้ามามีอำนาจในกองทัพบกเมื่อปี ๒๕๔๑ ได้สำเร็จ เปรมในฐานะประธานองคมนตรีก็เสนอชื่อ นายศักดา โมกขมรรคกุล อดีตประธานศาลฏีกา ขึ้นดำรงตำแหน่งองคมนตรี นายศักดา เคยดำรงตำแหน่งประธานศาลฏีกาในปี ๒๕๓๙-๒๕๔๐ ในช่วงปีเดียวกันนี้ก็ปรากฏมีผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฏีกาชื่อนายสันติ ทักราล

นายสันติ ทักราล ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฏีกา เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๓ ซึ่งเป็นห้วงเวลาคล้อยหลังจากที่ นายศักดาเป็นองคมนตรีได้เพียงปีเดียว แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับในช่วงเวลา ระหว่างที่นายสันติเป็นประธานศาลฏีกาอยู่นั้น นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ก็เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฏีกา ที่ทำงานใกล้ชิดนายสันติ และนายชาญชัยก็ได้ขยับขึ้นเป็นประธานศาลฏีกาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๗-๓๐ กันยายน ๒๕๔๙

ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ นายสันติ ทักราล ได้รับเสนอชื่อเข้าดำรงตำแหน่งองคมนตรี ในปีเดียวกันนี้ เปรมก็เริ่มเดินสายเรียกร้องเรื่องผู้นำต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม ตามสถาบันการศึกษา จนกระทั่งวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ มีการทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และมีการจัดตั้งรัฐบาลเถื่อนที่มี พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีก็ปรากฏมีชื่อ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ด้วยสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งและยาวนานที่เปรมมีต่อสถาบันตุลาการ ท่านผู้อ่านจึงอย่าได้แปลกใจว่าเหตุใดอดีตสาม กกต จึงถูกตัดสินจำคุก ๔ ปี แล้วทำไมพรรคไทยรักไทยจึงถูกตัดสินให้ยุบพรรคและกรรมการพรรคถูกเพิกถอนสิทธิในทางการเมืองและ....?????

๒. สถาบันการศึกษา ภายหลังจากที่ ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย ได้หันหลังให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เปรมก็เสนอชื่อแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรีและก็ยังคงบทบาทอยู่ในเวดวงการศึกษาอย่างเหนียวแน่นตราบเท่าทุกวันนี้ และที่สำคัญนายเกษมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบบิดเบือนกระแสพระราชดำรัส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงหรือ พระบรมราโชวาทเรื่อง รู้รักสามัคคีที่นายเกษมได้ปาฐกถาหัวข้อ ปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศไทยว่ารู้คือรู้ทุกแง่มุมเกี่ยวกับการศึกษาไทย รักคือเห็นคุณค่า มีความรักความพอใจในการทำงานที่ทำและสามัคคี คือร่วมกันทำงานด้วยความจริงใจทั้งๆที่พระบรมราโชวาทดังกล่าวนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้สติ กลุ่มนายทหารที่เกิดมีความขัดแย้งกันอยู่ในเวลานั้นให้ รู้รักสามัคคี

นายเกษม วัฒนชัย เป็นองคมนตรีอีกคนที่ไม่เคยให้ความสำคัญในเรื่องกฏหมาย โดยไม่สนใจแม้กระทั่งสถานะขององคมนตรีว่า ต้องไม่เป็นข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐและต้องไม่แสดงการฝักไฝ่ในพรรคการเมืองใดๆ นายเกษม เคยพูดอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เป็นประจำ อีกทั้งในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นองคมนตรี ยังปรากฏมีชื่อเป็น

1. นายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

2. นายกสภามาหวิทยาลัยอุบลราชธานี

3. นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ราชมงคลธัญบุรี

4. กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

5. อุปนายกสภามหาวิทยาลัยบูรพา

6. กรรมการบริหารและเลขาธิการมูลนิธิอานันทมหิดลและอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

สถาบันชั้นนำอีกหนึ่งแห่งที่ท่านผู้อ่านควรให้ความสนใจ เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับการโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นก็คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถ้าหากเปิดม่านสภามหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ท่านผู้อ่านก็จะพบว่ามีกลุ่มก๊วนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกลับพ.ต.ท.ทักษิณดังนี้

1. นายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย

2. ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ เป็นอธิการบดี

3. นายชวน หลีกภัย เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ

4. นายนพนิติ เศรษฐบุตร เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ

5. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ

6. นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ

7. ศ.น.พ. ประเวศ วะสี เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ

สำหรับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็มีนายอำพล เสนาณรงค์ ซึ่งก็เป็นองคมนตรีที่ผูกขาดอยู่บนตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย จนมีการต่อต้านและกดดันจนต้องออกมาเปิดแถลงการณ์เปิดอก ตลอดจนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายกสภามหาวิทยาลัยก็เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจาก มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้เป็นบุคคลตัวอย่าง ทั้งหมดล้วนแต่เป็นกลุ่มก๊วนองคมนตรี และคนใกล้ชิดเปรมซึ่งท่านผู้อ่านคงต้องสืบค้นสถาบันอื่นเพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติมเอาเอง ผมคงไม่สามารถนำเสนอได้หมดภายในบทความนี้ได้ และดังที่ได้กล่าวมานี้ ท่านผู้อ่านคงหายสงสัยแล้วนะครับว่าเหตุใดความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่ง ผลกระทบอย่างรุนแรงและต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ทำไมจึงไม่มีนักวิชาการหรือ นักศึกษาปัญญาชนเข้าร่วมต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้กับสังคม และเรียกร้องประชาธิปไตย ดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา

๓. ฝ่ายบริหาร ภายหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายพลากร สุวรรณรัฐ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ผู้ซึ่งเคยผิดหวังกับตำแหน่งสูงในกระทรวงมหาดไทย เปรมก็เสนอชื่อแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรีในทันทีเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฏาคม ๒๕๔๕ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง บุคคลที่มีปัญหาข้อขัดแย้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เปรมกวาดเอาไปเป็นพวกเสียจนหมดสิ้น ผมเขียนมาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านโปรดได้สังเกตด้วยนะครับว่า ภายหลังจากที่มีการยึดอำนาจและปลุกผี ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.)ขึ้นมานั้น นายพลากรซึ่งบัดนี้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีแล้ว ได้ใช้อิทธิพลพลักดัน ให้นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้ซึ่งเป็นน้องชายไปกินตำแหน่งผู้อำนวยการ ศอบต.

ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ ท่านผู้อ่านคงเห็นแล้วนะครับว่า สายสัมพันธ์ระหว่างนายพลากรและเปรมนั้น ไม่ใช่ธรรมดาที่สามารถจะมองข้ามกันได้ ดังนั้นจึงได้อย่าแปลกใจเลยนะครับว่าเหตุใดการเคลื่อนไหวของ นปก. จึงได้ถูกขัดขวาง ไม่ว่าที่ไหน จังหวัดใด และทำให้แกนนำกลุ่มขับไล่เผด็จการหลายคนยังเข้าใจว่าเป็นบทบาทของนายอารีย์ วงค์อารียะ ซึ่งความจริงแล้ว อิทธิพลและบารมีสายการปกครองในกระทรวงมหาดไทยของบังอารีย์นั้น มันหมดไปนานแล้วครับ เพราะมันเป็นคนละยุคสมัยกัน และถ้าจะว่ากันตามหลักแห่งความเป็นจริงแล้ว หากนายพลากรไม่ติดอยู่บนตำแหน่งองคมนตรี เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคงไม่ตกเป็นของนายอารีย์อย่างแน่นอน

๔. กองทัพ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรี เมื่อ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ซึ่งก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ย้ายจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ขึ้นไปรอเกษียณบนตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่สร้างความไม่พอใจให้กับเปรมอย่างชนิดฝังใจไม่ลืม เพราะถือเป็นการลูบคม ซึ่งรายละเอียดเรื่องบทบาทในกองทัพของ พล.อ.สุรยุทธ ผมคงไม่ต้องนำเสนอ เนื่องจากเป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลายแล้วว่ามีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบันที่นั่งควบตำแหน่งประธาน คมช. เพราะต่างเติบโตมาจากหน่วยบัญชาการสงครามพิ เศษ ชนิดคลานตามกันมา

ผมนำเสนอรายละเอียดเสียยืดยาวเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นที่มาที่ไป ของผังอำนาจที่เปรมได้วางไว้เมื่อตอนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานองคมนตรี และมาปรากฏชัดเจนในเวลานี้ว่า มันมีความเป็นมาเช่นไร

ถ้าหากท่านผู้อ่านไม่ลืมคงต้องจำได้ว่าความโชคร้าย ของประเทศไทยนั้นมันมีจุดเริ่มต้นจากการที่คนอย่างนายบรรหาร ศิลปอาชา สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จเมื่อปี ๒๕๓๙ และทันทีที่มีการจัดตั้งรัฐบาล มหกรรมแย่งตำแหน่งจากพวกเลือกตั้งก็เกิดขึ้น และหนักหน่วงรุนแรงจนนายบรรหารต้องมีการประกาศยุบสภาแทนที่จะลาออกตาม คำเสนอของ พล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธและนายเสนาะ เทียนทอง

ปี พ.ศ.๒๕๔๐ ประเทศไทยต้องโชคร้ายซ้ำซ้อนที่นายเสนาะ เปลี่ยนพรรคเลือกมายืนอยู่ใต้ร่มเงาพรรคความหวังใหม่ และมีโอกาศได้จัดตั้งรัฐบาล โดยมี พล.อ.เชาวลิต เป็นนายกรัฐมนตรี ในปีเดียวกันนี้เองที่ทำให้ขงเบ้งแห่งกองทัพอย่าง พล.อ.เชาวลิต ได้กลายมาเป็นของเล่นของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณและนายกร ทัพรังษี สองน้าหลานให้เป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน สลับกับผลงานของรัฐมนตรีมหาดไทย ที่มีนายเสนาะเป็นผู้ดูแล ในโครงการเปิดบ่อนไก่ชน สิบล้อบรรทุก ๒๘ ตัน แล้วที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศลืมไม่ลงนั่นก็คือ หนีเมียหลวงที่เดินทางมาตามราวีขณะที่ มีการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยที่นายเสนาะนั่งเป็นประธานอยู่ จนในที่ สุดรัฐบาล พล.อ.เชาวลิต ก็มีอันต้องถึงกาลอวสานในกรณีวิกฤติเศรษฐกิจ พร้อมกับมีเสียงเรียกร้องหาพี่หาร

ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง และได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายชวน หลีกภัยได้เป็นนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในขณะที่เปรมก็ได้รับโปรดเกล้าขึ้นเป็นประธานองคมนตรี จึงเป็นความโชคดีของ พล.อ.สุรยุทธ ที่ได้มีโอกาสทยานขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก จากตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ แน่นอนที่สุดบุญคุณอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องตอบแทน นั่นก็คือ

1. ค้ำยันรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ให้อยู่ครบเทอม ทั้งๆ ที่มีผลงานที่น่าอัปยศอดสูตลอดช่วงเวลาที่เป็นรัฐบาล และ

2. ต้องอยู่รับใช้เปรมที่ให้ชีวิตใหม่ในครั้งนั้นด้วยการเข้ารับ เป็นหัวหน้ารัฐบาลเถื่อนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่กลุ่มทหารโจรหยิบยื่นให้ในเวลานี้

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลที่ว่านอนสอนง่าย จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้กำลังยึดอำนาจให้สิ้นเปลือง เปรมจึงเริ่มมาสร้างเครื่อข่าย อำนาจเพื่อใช้ยามจำเป็นในอนาคต เปรมจึงได้เสนอชื่อแต่งตั้งนายศักดา โมกขมรรคกุล อดีตประธานศาลฏีกามาเป็นองคมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๔๒ ภายหลังจากที่เปรม ขึ้นสู่ตำแหน่งประธานองคมนตรีไม่ถึง ๔ เดือน (เปรมเป็นองคมนตรีเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๑) จวบจนกระทั่งนายชวน หลีกภัยประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนดครบเทอม ด้วยมั่นใจในความได้เปรียบในการเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่ผลเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคไทยรักไทยได้รับชัยอย่างชนิดฟ้าถล่มดินทลาย ดังนั้นแผนการยึดอำนาจจึงต้องถูกติดเบรคไว้ก่อน

ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ พรรคไทยรักไทยเป็นแกนนำจัดตั้ง รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ ก็ยังดำรงตำแหน่ง อันทรงพลังอยู่ในกองทัพและมีอายุราชการยาวนานไปถึงปี ๒๕๔๖ แผนการยึดอำนาจจึงยังคงมีอยู่ เพียงแต่รอเวลาและโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้นเอง ดังนั้นเมื่อ น.พ.เกษม วัฒนชัย มีปัญหาข้อขัดแย้ง และได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เปรมก็อุ้มเข้าเอวและเสนอชื่อให้โปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นองคมนตรี

ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ กองทัพมีความเห็นเป็นที่ขัดแย้งกับ รัฐบาลในกรณีปัญหาประเทศเพื่อนบ้าน จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องออกมาปรามกองทัพว่ าอย่า โอเวอร์รีแอ๊ค” (over react ) ก่อนมาถึงจุดแตกหักถึงขั้นต้องยกโทรศัพท์ถาม พล.อ.สุรยุทธ กลางดึกว่า คุณจะปฏิวัติผมหรือก่อนที่จะมีการย้ายให้ พล.อ.สุรยุทธ ขึ้นไปรอเกษียณบนตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปีเดียวกันนี้เองก็มีการยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาตใต้ (ศอ.บต.) ที่มีนายพลากร สุวรรณรัฐ ผู้อกหักจากตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม เปรมก็เสนอชื่อนายพลากร ขึ้นเป็นองคมนตรี พอข้ามปีอันเป็นการถึง คราวเกษียณอายุราชการของ พล.อ.สุรยุทธ ก็ถูกเสนอชื่อเป็นองคมนตรีเช่นเดียวกัน

ถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านก็คงเห็นชัดแล้วนะครับว่า แผนการยึดอำนาจนั้นมันมีมานานแล้ว แต่หาโอกาสไม่ได้ ด้วยไม่มีข้ออ้างที่สมเหตุสมผล และยิ่งรอนานเท่าไรก็ดูเหมือนโอกาสจะริบหรี่ลงทุกที นั่นเป็นเพราะความสามารถของคนชื่อทักษิณ ที่ยิ่งนานวันก็ยิ่งเข้าไปอยู่ในหัวใจของผู้คนมากยิ่งขึ้น และนี่แหละที่ทำให้เปรมหมดความอดทนที่จะรออีกต่อไป ในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ เปรมจึงเสนอชื่อนายสันติ ทักราล อดีตประธานศาลฏีกามาเพิ่มศักยภาพ เพราะนายศักดานั้นพ้นวงการยุติธรรมมานานและมีปัหาเรื่องสุขภาพ ถึงตอนนี้เพื่อความชัดเจน ผมขอฉายซ้ำในส่วนขององคมนตรีที่มาจากสายตุลาการอีกครั้ง

1. นายศักดา โมกขมรรคกุล ขึ้นดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ ๖ มากราคม ๒๕๔๒ ถึง ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ (ถึงแก่อสัญกรรมในตำแหน่ง) ดำรงตำแหน่งประธานศาลฏีกาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๙-๓๐ กันยายน ๒๕๔๐ โดยมีนายสันติ ทักราล เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฏีกาในเวลานั้น

2. นายสันติ ทักราล ขึ้นดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๔๘ - ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งประธานศาลฏีกาเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๓-๓๐ กันยายน ๒๕๔๔ โดยมีนายชายชัย ลิขิตจิตถะ เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฏีกาในเวลานั้น

3. นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ดำรงตำแหน่งประธานศาลฏีกา เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๗-๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลเถื่อน ที่มี พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๔๙

เมื่อเป็นเช่นนี้ กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยจึงเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับท่านผู้อ่าน ดังนั้นแก๊งองคมนตรีอันประกอบด้วยนายศักดา โมกขมรรคกุล นายเกษม วัฒนชัย นายพลากร สุวรรณรัฐ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายสันติ ทักราล โดยมีเปรมเป็นหัวหน้า แล้วร่วมด้วยช่วยกันในการโค่นล้ม จึงสมบูรณ์แบบตามแบบฉบับเปรมาธิปไตย คือ กองทัพก็ถูกควบคุมโดยองคมนตรีสุรยุทธ กระบวนการยุติธรรมก็ไม่ต้องพิจารณาตามหลักนิติธรรม เพราะมีองคมนตรีทำหน้าที่กดทับอยู่ถึง ๒ คน ผู้ว่าถังขี้อย่างที่กลุ่ม นปก.มารายงานให้พี่น้องท้องสนามหลวง ก็มีใบสั่งจากองคมนตรีพลากร นักศึกษาปัญญาชนก็ไม่สามารถขยับเขยื่อนได้ก็ด้วย เงื่อนไขของพระราชบัญญัติสภามหาวิทยาลัย ซึ่งมีองคมนตรีและ พลพรรคนั่งอยู่บนตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยเกือบทุกมหาวิทยาลัย